ดาลตัน เสนอว่า อะตอมมีลักษณะเป็นทรงกลม
ภายในว่างเปล่า
อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันจะมีสมบัติเหมือนกัน
แต่ลักษณะอะตอมของตาลต้นไม่สามารถอธิบาย
คำถามหรือข้อสงสัยบางอย่างได้ เช่น
การเกิดไฟฟ้าสถิต
ต่อมาจึงได้มีผู้ทดลองเพื่อค้นหาคำอธิบายกันอย่างมากมาย
จนได้ข้อสรุปว่าภายในอะตอม
จะประกอบด้วยอนุภาคมูลฐาน 3 ชนิด คือ อิเล็กตรอน (e) โปรตอน (p) และนิวตรอน (n)
โดยมีแกนกลางที่ว่างขึ้นจากโปรตอนและนิวตรอน
เรียกว่า นิวเคลียส
และมีอิเล็กตรอนที่ว่องไววิ่งอยู่รอบ ๆ
อนุภาคเหล่านี้จะจับยึดกันอยู่ด้วยแรงสองชนิดคือ
แรงแม่เหล็ก ไฟฟ้า และแรงนิวเคลียร์
โปรตอนเป็นอนุภาคที่มีประจุบวก
และอิเล็กตรอนเป็นอนุภาคที่มีประจุลบ
ดังนั้นโปรตอนกับอิเล็กตรอนจึงดึงดูดกันด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
แต่นิวตรอนเป็นอนุภาคที่เป็นกลาง
อยู่รวมกับโปรตอนในนิวเคลียส
ดังนั้นนิวตรอนกับโปรตอนจึงดึงดูดกันด้วยแรงนิวเคลียร์
หลังปี ค.ศ. 1960 นักวิทยาศาสตร์
ได้ศึกษาพบว่า
มีอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าอยู่ในโปรตอนและนิวตรอน
ซึ่งได้รับการตั้งชื่อภายหลังว่า ควาร์ก (quark)
ควาร์กมีขนาดเล็กกว่าโปรตอนประมาณ 1,000 เท่า
และมีพลังงานจากประจุไฟฟ้า ประมาณ 1/3 - 2/3
ของโปรตอน ปัจจุบันเราพบควาร์กถึง 6 ชนิด ได้แก่ อัพ (up)
ดาวน์ (down) สเตรนจ์ (Strenge) ชาร์ม (charm) ทอป (top) และ บอททอม (bottom)